#
#


  • การทุจริต (Fraud)

    การทุจริต(Fraud) หรือ อาชญากรรมปกเสื้อขาว (White Collar Crime) หมายถึงอาชญากรรมที่เกิดขึ้นโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี ไม่ว่าจะอยู่ในภาคเอกชนหรือภาครัฐ โดยการใช้ตำแหน่งหน้าที่การงาน และการประพฤติมิชอบเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง

  • การคบหาสมาคมที่แตกต่าง (Differential Association)

    การคบหาสมาคมที่แตกต่าง (Differential Association) หมายถึง กระบวนการที่คนมี
    ประสบการณ์กับค่านิยมในการให้ความยอมรับหรือไม่ยอมรับพฤติกรรมผิดกฎหมาย หรือถูกต้อง
    ตามกฎหมาย มิติในการคบหาสมาคมกันคือ การที่บุคคลมีการติดต่อสัมพันธ์กับบุคคลอื่นที่เข้าร่วม
    ในพฤติกรรมเดียวกัน ส่วนมิติทางค่านิยมนั้นเป็นประสบการณ์ที่บุคคลได้ประสบกับรูปแบบต่างๆ
    ของบรรทัดฐานและค่านิยมในการคบหาสมาคมกับบุคคลอื่น

  • ทฤษฎีการคบหาสมาคมที่แตกต่าง

    Edwin H. Sutherland (1883 – 1950)

    Differential Association theory

    พฤติกรรมอาชญากรเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ และการเรียนรู้ดังกล่าวจะเกิดขึ้นโดยผ่านทางการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งทฤษฏีนี้มีหลักการที่สำคัญอยู่ 9 ประการ ได้แก่

    1. พฤติกรรมทางอาชญากรสามารถเรียนรู้ได้

    2. พฤติกรรมทางอาชญากร สามารถเรียนรู้ได้จากบุคคลอื่นโดยการติดต่อสื่อสาร

    3. หลักการสำคัญของการเรียนรู้พฤติกรรมทางอาชญากรจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีการติดต่อกันอย่างใกล้ชิดภายในกลุ่ม

    4. การเรียนรู้พฤติกรรมอาชญากรรมจะประกอบด้วย 4.1 วิธีการในการประกอบอาชญากรรม 4.2 เหตุผลและทัศนคติในการประกอบอาชญากรรม

    5. เหตุผลและทัศนคติในการประกอบอาชญากรรม เกิดจากการเรียนรู้ที่จะพอใจหรือไม่พอใจกฎหมาย

    6. การที่บุคคลกระทำผิดเกิดจากมีความชอบที่จะละเมิดกฎหมาย (favorable to violation of law) มากกว่าการไม่ชอบที่จะละเมิดกฎหมาย (unfavorable to violation of the law)

    7. Differential Association จะมีความแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับความถี่ (frequency) ความนาน (duration) การจัดลำดับ (priority) และความรู้สึก (intensity)

    8. กระบวนการเรียนรู้พฤติกรรมอาชญากร โดยการเข้ากลุ่มกับผู้ที่เป็นอาชญากรและผู้ที่ต่อต้านอาชญากร เกี่ยวข้องกับกลไกในการเรียนรู้ ทำนองเดียวกับการเรียนรู้เรื่องอื่นๆ

    9. พฤติกรรมอาชญากรเป็นการแสดงออกถึงความต้องการ (needs) และค่านิยม (values) แต่การที่บุคคลทั่วไปมีความต้องการและค่านิยมไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นเป็นอาชญากร

  • Fraud Triangle: สาเหตุของการฉ้อโกงงบการเงินในบริษัท -1

    1.ความกดดัน
    ปัจจัยแรกคือการมีอยู่ของแรงกดดัน แรงกดดันที่ได้รับจากผู้ฉ้อโกงนั้นส่งเสริมและกระตุ้นให้พวกเขากระทำการผิดกฎหมายที่เป็นอันตรายต่อการเงินของบริษัท ผลกระทบของความเครียดในชีวิตทำให้ผู้ทุจริตไม่สามารถคิดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการกระทำ ผลที่ตามมา และผลกระทบที่อาจส่งผลต่อตนเองและผู้อื่นหากพวกเขาทำเช่นนั้น โดยปกติเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก คนหนึ่งจะคิดอย่างมีเหตุมีผลไม่ได้ จึงทำให้เขาแสดงท่าทางไร้เหตุผล หากบุคคลนั้นเป็นลูกจ้างในบริษัท ก็มีความเป็นไปได้ที่บุคคลนั้นจะทำการฉ้อโกงเช่น การโจรกรรม การปลอมแปลง การรับสินบน เป็นต้น ต่อไปนี้คือตัวอย่างแรงกดดันที่อาจกระตุ้นให้ผู้อื่นทำการทุจริต

  • Fraud Triangle: สาเหตุของการฉ้อโกงงบการเงินในบริษัท -2

    2.โอกาส
    ปัจจัยต่อไปคือการมีอยู่ของโอกาสหรือช่วงเวลาเฉพาะที่ทำให้ใครบางคนสามารถกระทำการทุจริตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีคนเผชิญกับสภาวะที่สามารถกระทำการทุจริตได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่มีเจตนาจากผู้ทุจริตให้ทำเช่นนั้นก็ตาม โอกาสอาจเป็นโอกาสสำหรับผู้ทุจริตหากมีสิ่งต่อไปนี้

    SOP (เอกสารคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน) ที่นำไปใช้ในบริษัทไม่ได้ดำเนินการอย่างมีวินัยอย่างสูงสุด
    มีพนักงานที่มีโต๊ะทำงานหลายโต๊ะ ขาดการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของพนักงานโดยเฉพาะจากฝ่ายบริหารของบริษัทการใช้ระบบ/เทคโนโลยีของบริษัทซึ่งความปลอดภัยไม่ได้รับการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ ขาดการลงโทษทางวินัยสำหรับการละเมิดนโยบายหรือระเบียบข้อบังคับ แม้แต่การละเมิดเล็กน้อย

  • Fraud Triangle: สาเหตุของการฉ้อโกงงบการเงินในบริษัท -3

    3.การหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง
    ปัจจัยที่3คือการหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง การกระทำนี้เป็นการป้องกันตัวของผู้ทุจริตเพราะพวกเขาคิดว่าตนบริสุทธิ์โดยให้เหตุผลเหตุผลในการฉ้อโกง ผู้ฉ้อโกงรู้สึกว่าสาเหตุของการฉ้อโกงนั้นสามารถเข้าใจและยอมรับได้เนื่องจากสถานการณ์ที่พวกเขาเป็นอยู่ เป็นเรื่องปกติที่ผู้ฉ้อโกงจะตำหนิบริษัทสำหรับการกระทำของพวกเขาเพราะพวกเขารู้สึกว่าตนเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่มีอยู่หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นผู้ถูกกระทำ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเหตุผลในการให้เหตุผลหรือหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง

    เงินเดือนไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับการทำงานหนักและผลประโยชน์ที่ได้รับจากบริษัท ผิดหวังเพราะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง คิดว่าบริษัทจะไม่ขาดทุนหรือล้มละลายเพียงเพราะการทุจริตที่พวกเขาทำ
    รู้สึกว่าบริษัทไม่เป็นธรรมกับตน คิดว่าการฉ้อโกงเป็นวิธีเดียวที่จะปลดปล่อยพวกเขาจากปัญหาทางการเงินที่พวกเขาเผชิญ รู้สึกว่าเป็นสิทธิของตนเพราะมีส่วนทำให้บริษัทก้าวหน้า

ข้อมูลวิชาชีพบัญชี